มาติงเกลคืออะไร ?
มาติงเกลคือรูปแบบหนึ่งของกลยุทธ์การเทรด ซึ่งมีการใช้งานกันอย่าแพร่หลาย ไม่ใช่เพียงในการเทรดเพียงอย่างเดียว ในการพนันก็มีการใช้ระบบมาติงเกลเข้ามาช่วยในการวางแผนเช่นกัน แนวคิดมาติงเกลคือ การแก้ผลการเทรดด้วยการเพิ่มเงินในการเทรดรอบถัดไป เพื่อให้สามารถเอากำไรจากรอบที่เทรดชนะไปทดแทนการขาดทุนในรอบที่แพ้ หรือเอาเงินไปชดเชยในส่วนที่เสียไป
ตัวอย่าง การ พนัน Hi-LO โดยเว็บ FreeDoge
กติกา
ตัวอย่างที่ 2
มาติงเกลคือรูปแบบหนึ่งของกลยุทธ์การเทรด ซึ่งมีการใช้งานกันอย่าแพร่หลาย ไม่ใช่เพียงในการเทรดเพียงอย่างเดียว ในการพนันก็มีการใช้ระบบมาติงเกลเข้ามาช่วยในการวางแผนเช่นกัน แนวคิดมาติงเกลคือ การแก้ผลการเทรดด้วยการเพิ่มเงินในการเทรดรอบถัดไป เพื่อให้สามารถเอากำไรจากรอบที่เทรดชนะไปทดแทนการขาดทุนในรอบที่แพ้ หรือเอาเงินไปชดเชยในส่วนที่เสียไป
ตัวอย่าง การ พนัน Hi-LO โดยเว็บ FreeDoge

กติกา
- การตั้งค่า
- Bet Amount : ขนาดของการเดินพัน
- Max profit per bet : กำไรสูงสุดของการพนัน
- Payout : ผลตอบแทน
- Win change : อัตราชนะ
- Play for jackpots : พนัน Jackpots
- การเล่น
- จะมีการสุ่มตัวเลข ระหว่าง 0 ถึง 10,000
- เราจะมีการพนันเป็น Hi คือสูง และ Lo คือต่ำ
- บ่อนจะคิดค่าพนันเป็นอัตราชนะ 2.5 %
ตัวอย่างที่ 1

- ผลตอบแทน 1.9 เท่า
- Win change 50.00%
- ถ้าคุณเล่นฝั่ง High การจะชนะต้องได้ตัวเลขมากกว่า 5000
- ถ้าคุณเล่นฝั่ง Low การจะชนะต้องได้ตัวเลขน้อยกว่า 5000
ตัวอย่างที่ 2

- ผลตอบแทน 5 เท่า
- Win change 19.00%
- ถ้าคุณเล่นฝั่ง High การจะชนะต้องได้ตัวเลขมากกว่า 8100
- ถ้าคุณเล่นฝั่ง Low การจะชนะต้องได้ตัวเลขน้อยกว่า 1900

- ผลตอบแทน 10 เท่า
- Win change 9.50%
- ถ้าคุณเล่นฝั่ง High การจะชนะต้องได้ตัวเลขมากกว่า 9050
- ถ้าคุณเล่นฝั่ง Low การจะชนะต้องได้ตัวเลขน้อยกว่า 950
ระบบ Auto Bet
ตัวอย่างระบบมาติงเกล
- การตั้งค่า
- Base bet : ขนาดของการเดินพัน
- Max bet/win : กำไรสูงสุดของการพนัน
- Bet odds : ผลตอบแทน
- No.of rolls : จะนวนรอบของการพนัน
- Bet on : ฝั่งของการพนัน
- Hi : สูง
- Lo : ต่ำ
- Alternate : สลับกันระหว่างสูงและต่ำ
- Stop betting after : เงื่อนไขการหยุดพนัน
- Profit >= : หยุดเมื่อกำไรมากกว่าที่กำหนด
- Loss >= : หยุดเมื่อขาดทุนมากกว่าที่กำหนด
- On win : เงื่อนไขเมื่อชนะ
- Return to base bet : กลับไปเดิมพันเท่าเดิม
- Increase bet by xx.xx % : เพิ่มเงินเดิมพัน
- Change odd to x : เปลี่ยนอัตราการเดิมพันเป็น x
- On lose : เงื่อนไขเมื่อแพ้
- Return to base bet : กลับไปเดิมพันเท่าเดิม
- Increase bet by xx.xx % : เพิ่มเงินเดิมพัน
- Change odd to x : เปลี่ยนอัตราการเดิมพันเป็น x
- On Hitting Max Bet/Win : เมื่อถึงจุด ชนะสูงสุดจะทำอย่างไร
- Return to base bet : กลับไปเริ่มพนันใหม่
- Stop betting : หยุดพนัน

เงื่อนไข
- เดิมพันรอบละ 0.045
- เมื่อแพ้เราจะเพิ่มเงินเดิมพัน 101 % หรือ Recover Factor = 1.01
- Sum : เงินที่เสีย หรือเงินที่ติดลบ
ตัวอย่างการคำนวน
- ผิด 1 ครั้ง จะใช้เงิน 0.045
- ผิด 2 ครั้ง จะใช้เงิน 0.14
- ผิด 4 ครั้ง จะใช้เงิน 0.55
- ผิด 7 ครั้ง จะใช้เงิน 4.44
- ผิด 10 ครั้ง จะใช้เงิน 36.09
- ผิด 15 ครั้ง จะใช้เงิน 1,183.93
ตัวอย่างมาติงเกล 2

ตัวอย่างการคำนวน
- ผิด 1 ครั้ง จะใช้เงิน 0.05
- ผิด 2 ครั้ง จะใช้เงิน 0.14
- ผิด 4 ครั้ง จะใช้เงิน 0.62
- ผิด 7 ครั้ง จะใช้เงิน 5.7
- ผิด 10 ครั้ง จะใช้เงิน 52.76
- ผิด 15 ครั้ง จะใช้เงิน 2,154.89
ตัวอย่างมาติงเกล 3

ตัวอย่างการคำนวน
- ผิด 1 ครั้ง จะใช้เงิน 0.05
- ผิด 2 ครั้ง จะใช้เงิน 0.14
- ผิด 4 ครั้ง จะใช้เงิน 0.70
- ผิด 7 ครั้ง จะใช้เงิน 7.42
- ผิด 10 ครั้ง จะใช้เงิน 52.76
- ผิด 15 ครั้ง จะใช้เงิน 4,072.46
สรุปการใช้งานมาติงเกล
- เมื่อมีการผิดต่อเนื่องเราจะต้องรับผลตามมาคือการขาดทุนจำนวนมาก
- การเพิ่ม Recovery Factor จะทำให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นมื่อกลับมา Win ก็จริง แต่ในกรณีที่ยังผิดต่อเนื่อง จะเป็นการเพิ่มภาระของระบบจากการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย
- การจะนำมาติงเกลมาใช้ควรสามารถยอมรับสิ่งที่ระบบต้องแบกรับหรือการขาดทุนขนาดใหญ่ได้