ความลังเล (Hesitation) : 疑问(Yíwèn)
สำหรับ Trader นั้นสิ่งสำคัญที่หลายๆคนมองข้ามอาจเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าที่หลายคนให้ความสำคัญก็ได้ สิ่งหนึ่งที่สำคัญและหลายคนมองข้ามคือเรื่องของการลังเล ความลังเลที่จะเทรด ความลังเลที่จะทำตามแผน ความลังเลที่จะเปิดส่งคำสั่งเมื่อราคาหรือเงื่อนไขตรงตามที่ได้วางแผนไว้ ความลังเลที่จะปิดคำสั่งเมื่อราคาถึงจุดที่ได้วางแผนไว้
สิ่งเหล่านี้คือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และอาจเปลี่ยนจากการทำกำไรเป็นให้เป็นขาดทุน
สำหรับ Trader นั้นสิ่งสำคัญที่หลายๆคนมองข้ามอาจเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าที่หลายคนให้ความสำคัญก็ได้ สิ่งหนึ่งที่สำคัญและหลายคนมองข้ามคือเรื่องของการลังเล ความลังเลที่จะเทรด ความลังเลที่จะทำตามแผน ความลังเลที่จะเปิดส่งคำสั่งเมื่อราคาหรือเงื่อนไขตรงตามที่ได้วางแผนไว้ ความลังเลที่จะปิดคำสั่งเมื่อราคาถึงจุดที่ได้วางแผนไว้
สิ่งเหล่านี้คือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และอาจเปลี่ยนจากการทำกำไรเป็นให้เป็นขาดทุน

ตัวอย่าง
- Sell Gold ที่ราคา 1,320.20
- Take Profit ที่ราคา 1,213.26
- Cut Loss ที่ราคา 1,367.00
- RRR = 1,367.00 - 1,320.20 : 1,320.20 - 1,213.26
- RRR = 46.8 : 106.94
- RRR = 2.285
- เทรดตามแผน
- Open Volume 0.05
- Return = 0.05*106.94 = 5.347
- เทรดตามแผนแต่มีการปรับแบบที่ 1
- Open Volume 0.05 ที่ราคา 1,320.20
- Open Volume 0.10 ที่ราคา 1,300.20
- Profit/Loss = 0.05x( 1,320.20 - 1,213.26 ) + 0.10x(1,300.20 - 1,213.26)
- Profit/Loss = 5.347 + 8.694 = 14.041

- เทรดตามแผนแต่มีการปรับแบบที่ 2
- Open Volume 0.05 ที่ราคา 1,320.20
- Open Volume 0.10 ที่ราคา 1,300.20
- Open Volume 0.15 ที่ราคา 1,280.20
- Close Order ทั้งหมดที่ราคา 1,335.95 เพราะทนติดลบไม่ได้
- Profit/Loss = 0.05x( 1,320.20 - 1,335.95 ) + 0.1x( 1,300.20 - 1,335.95) + 0.1x( 1,280.20 - 1,335.95)
- Profit/Loss = - 0.7875 - 3.575 - 8.3625 = 12.725
- จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาเทรดมีผลอย่างมาก สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องยอมรับคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เราทำ ทั้งที่ทำตามแผนและไม่ทำตามแผน